share

ISO 31000 คืออะไร? เข้าใจมาตรฐานสากลด้านการจัดการความเสี่ยง

Last updated: 31 May 2024
404 Views
ISO 31000 คืออะไร? เข้าใจมาตรฐานสากลด้านการจัดการความเสี่ยง

ISO 31000 คือมาตรฐานสากลที่ให้แนวทางในการจัดการความเสี่ยงขององค์กร ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (International Organization for Standardization: ISO) เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถระบุ ประเมิน จัดการ และติดตามความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบ ไม่ว่าองค์กรนั้นจะอยู่ในภาคส่วนใดก็ตาม

หลักการสำคัญของ ISO 31000 มีดังนี้

  1. การบริหารความเสี่ยงควรสร้างคุณค่าและปกป้ององค์กร
  2. การบริหารความเสี่ยงควรเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตัดสินใจขององค์กร
  3. การบริหารความเสี่ยงควรคำนึงถึงปัจจัยด้านมนุษย์และวัฒนธรรมขององค์กร
  4. การบริหารความเสี่ยงควรเป็นกระบวนการที่โปร่งใสและครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
  5. การบริหารความเสี่ยงควรมีความยืดหยุ่น ปรับได้ตามการเปลี่ยนแปลง
  6. การบริหารความเสี่ยงควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ดีที่สุดที่มีอยู่
  7. การบริหารความเสี่ยงควรปรับให้เข้ากับบริบทขององค์กร
  8. การบริหารความเสี่ยงควรคำนึงถึงปัจจัยทางวัฒนธรรม จิตวิทยา และพฤติกรรมมนุษย์

นอกจากนี้ ISO 31000 ยังให้กรอบการทำงานเพื่อประเมินระดับความรุนแรงของความเสี่ยง โดยพิจารณาจากโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ (Likelihood) และผลกระทบที่เกิดขึ้น (Impact) องค์กรควรให้ความสำคัญกับความเสี่ยงที่มีระดับความรุนแรงสูงก่อน และกำหนดมาตรการในการจัดการความเสี่ยงเหล่านั้น เช่น หลีกเลี่ยง ลด แบ่งปัน หรือยอมรับความเสี่ยง

การนำ ISO 31000 มาใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถ:

  • เพิ่มโอกาสในการบรรลุวัตถุประสงค์
  • สร้างวัฒนธรรมการบริหารความเสี่ยงในทุกระดับขององค์กร
  • ปรับปรุงการระบุโอกาสและภัยคุกคาม
  • ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานสากล
  • ปรับปรุงการรายงานและธรรมาภิบาล
  • เพิ่มความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  • สร้างพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจและวางแผนอย่างมั่นคง
  • จัดสรรและใช้ทรัพยากรสำหรับการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิผล

ในปัจจุบัน ISO 31000 ได้ถูกนำไปใช้เป็นมาตรฐานการจัดการความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ภาคการเงิน พลังงาน สาธารณสุข ไปจนถึงภาครัฐ ซึ่งแต่ละภาคส่วนก็สามารถปรับใช้หลักการของ ISO 31000 ให้สอดคล้องกับบริบทเฉพาะของตน สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของมาตรฐานนี้
 
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ISO 31000 จะวางกรอบและแนวทางในการบริหารความเสี่ยงที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือองค์กรต้องมีความมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมการจัดการความเสี่ยงที่เข้มแข็ง ผู้นำองค์กรต้องให้ความสำคัญและสนับสนุนการบริหารความเสี่ยงอย่างจริงจัง พร้อมทั้งสื่อสารและส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้ในทุกระดับขององค์กร มิเช่นนั้นแล้ว การนำมาตรฐาน ISO 31000 มาใช้ก็จะไม่เกิดประสิทธิผลเท่าที่ควร

 
ในอนาคต ISO 31000 มีแนวโน้มที่จะถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงใหม่ๆ เช่น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ภาวะโลกร้อน และโรคระบาด ก็ทวีความรุนแรงและความถี่มากขึ้นเรื่อยๆ องค์กรที่สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดีจะสามารถปรับตัว รับมือกับความท้าทาย และเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ดีกว่า ด้วยเหตุนี้ ISO 31000 จึงจะยิ่งทวีความสำคัญต่อความอยู่รอดและความสำเร็จขององค์กรในโลกปัจจุบันและอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้อง
การปรับตัวของ ISO ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษามาตรฐานและความสามารถในการแข่งขัน ISO (International Organization for Standardization)
ISO 20000-1 : มาตรฐานงานบริการด้าน IT สำหรับองค์กรในโลกยุคดิจิตอล [ Part I ]
องค์กรที่ประสบความสำเร็จในโลกยุคดิจิตอลนี้ ทุกแห่งต่างก็มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT System) ที่มีประสิทธิภาพรองรับ และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธได้ ดังนั้น คำถามที่มักจะได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ การให้บริการด้าน IT (IT Services) ขององค์กรเหล่านั้นได้รับการบริหารจัดการอย่างไร
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy